ประวัติของแอรอน เอ็กฮาร์ท (Aaron Eckhart)

เอรอน แอ็กฮาร์ท (Aaron Eckhart) เป็นนักแสดงชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียงในวงการบันเทิง เกิดเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 1968 ในเมืองคัปฮัยเตน (Cupertino) รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เขาเป็นลูกชายคนเดียวของแม่ที่ทำงานเป็นนักคอมพิวเตอร์และบิดาที่เป็นธุรกิจเดี่ยว ในวัยเด็ก เขาย้ายไปอยู่ในประเทศอังกฤษ และได้รับการศึกษาที่เมืองไอส์ตัน (Islington) ในลอนดอน หลังจากเรียนจบปริญญาบัตรวิทยาศาสตร์ทางสิ่งแวดล้อมจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขาตัดสินใจเรียนการแสดงที่แหลมเกเร (Brigham Young University) ในรัฐยูตาห์ จังหวัดยูตาห์ เป็นคนสุขุมวิท และได้เริ่มต้นออกแสดงในละครมหาลัยและภาพยนตร์สั้น

เคาน์เตอร์เป็นนักแสดงเต็มตัวที่ตอบสนองความต้องการในหลากหลายบทบาท ความสามารถของเขาในการเปลี่ยนรูปลักษณ์และการแสดงที่น่าเชื่อถือได้ได้รับการยกย่องอย่างแพร่หลาย ซึ่งเอกลักษณ์ของเขาไม่ได้ถูกจำเงินและถูกจดจำในแบบของบุคคลในแวดวง Hollywood โดยส่วนมากเขามักแสดงบทบาทที่มีความลึกลับและความหลังมืด รวมถึงบทบาทที่เต็มไปด้วยอารมณ์และอิมโพธิสว่างสว่าง

ความสำเร็จของเคาน์เตอร์มีมากมาย เริ่มต้นจากบทบาทเล็ก ๆ ในละครทีวี เขาได้เข้าสู่สายแสดงภาพยนตร์ส่วนใหญ่ด้วยภาพยนตร์อิสระที่เรียกว่า “In the Company of Men” (1997) ที่ได้รับความชื่นชอบและรางวัล ตามมาด้วยบทบาทในภาพยนตร์ดราม่า “Erin Brockovich” (2000) และ “Possession” (2002) ในภาพยนตร์เรื่อง “The

Dark Knight” (2008) เคาน์เตอร์รับบทเป็นฮาร์วีย์ ดีน นักเมืองที่ได้รับการบุกเข้ามาดำเนินศึกในกรุงโกทแธม บทบาทนี้ได้รับความคาดหวังจากผู้ชมและได้เสนอชื่อเขาให้เป็นนักแสดงดีเด่นในหมวดนักแสดงชายเอกอันยอดเยี่ยมในรางวัลออสการ์

หลังจากนั้น เคาน์เตอร์ได้มีบทบาทที่สำคัญในหลายภาพยนตร์ เช่น “Thank You for Smoking” (2005) และ “Rabbit Hole” (2010) ที่ได้รับความชื่นชอบจากวิจารณ์ นอกจากนี้ เขายังมีบทบาทใน “Battle: Los Angeles” (2011), “Olympus Has Fallen” (2013), “London Has Fallen” (2016), และ “Sully” (2016) ซึ่งแสดงความสามารถของเขาในการแสดงอารมณ์ที่ลึกซึ้งและการนำเสนอบทบาทที่มีความลึกลับอย่างดี ในทางด้านการแสดงและความคิดสร้างสรรค์ อเมริกันเขาคือนักแสดงที่มีความสามารถที่ท้าทายและได้รับความยอมรับในวงการภาพยนตร์อย่างแพร่หลาย

ประวัติของแอรอน เอ็กฮาร์ท

แอรอน เอ็กฮาร์ทเป็นนักแสดงภาพยนตร์และเวทีชาวอเมริกันที่ได้รับความรู้จักจากบทบาทในภาพยนตร์สำเร็จรูปรายการ ‘Erin Brockovich’ ในปี ค.ศ. 2000 ที่สร้างชื่อเขาในระดับสากล หลังจากนั้นเขาได้รับความนำเสนอเพิ่มขึ้นจากบทบาทของเนิค เนเลอร์ ใน ‘Thank You for Smoking’ นักแสดงคนดังที่ได้รับคำชมมากมายในปัจจุบันด้วยการแสดงที่ได้รับคำชมอย่างสูงมาก แต่คงไม่สามารถจินตนาการได้ว่าเขาเคยเป็นนักแสดงที่ต่อสู้อยู่ในช่วงเริ่มต้น ที่ไม่มีงานที่มั่งคั่งและมักจะต้องคับคั่งเพื่อจับตื้นกับความจำเป็นของชีวิต เขามีความสนใจในการแสดงตั้งแต่ยุคโรงเรียน และออกจากโรงเรียนเพื่อทำงานในโรงภาพยนตร์ Warringah Mall ในฐานะนักแสดง ในที่สุดเขาได้กลับมาศึกษาให้สำเร็จการศึกษารับปริญญาศิลปะบัณฑิตในสาขาภาพยนตร์ แม้ว่าเขามีความหล่อเหมือนและมีพรสวรรค์ แต่เขาไม่สามารถสร้างชื่อในวงการแสดงภาพยนตร์ได้เป็นเวลาหลายปี โชคชะตาของเขาเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้รับบทบาทของ จอร์จ ในภาพยนตร์ ‘Erin Brockovich’ ที่ช่วยให้อาชีพการแสดงของเขาที่กำลังล้มเหลวได้รับการสนับสนุนที่จำเป็น หลังจากที่ได้รับความสนใจจากความหล่อเหมือนและความสามารถที่น่าประทับใจ เขาได้รับข้อเสนอให้เข้ารับบทบาทในหลายเรื่อง และไม่ช้าเขาก็กลายเป็นนักแสดงตัวอย่างที่เคารพในฮอลลีวู้ด บทบาทล่าสุดของเขาคือในภาพยนตร์ปี ค.ศ. 2016 ‘Sully’ ในนั้นเขารับบทเป็นเจฟ สไคลส์

เด็กวัยเด็กเล็กและชีวิตต้น ๆ
แอรอน เอ็กฮาร์ท เกิดเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 1968 ที่แคลิฟอร์เนีย จากพ่อแม่ชื่อ แมรี มาร์ทา ซึ่งเป็นผู้เขียนหนังสือเด็ก และชาวกวี และเจมส์ คอนราด เอ็กฮาร์ท ซึ่งเป็นผู้บริหารด้านคอมพิวเตอร์ เขามีพี่น้องชายสองคนและเป็นสมาชิกในคริสตจักรของพระเยซูคริสต์ของวัดของพระเยซูคริสต์ของพระเยซูคริสต์ของพระเยซูคริสต์ของพระเยซูคริสต์ของพระเยซูคริสต์ของพระเยซูคริสต์ของพระเยซูคริสต์เดอะเลตเตอร์เดย์เซนต์ของพระเยซูคริสต์ และให้การประสานศาสนา LDS ในประเทศฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์เป็นเวลาสองปีก่อนจะย้ายไปอยู่ในอังกฤษ

ในอังกฤษ เขาไปเรียนในโรงเรียนอเมริกันคอมมูนิตี้ ชเวนท์ และเป็นระหว่างช่วงเวลาที่เขาเรียนที่โรงเรียนนี้ที่ความสนใจทางการแสดงของเขาเริ่มต้นก่อนเขาได้รับการแนะนำในการแสดงในการแสดงที่โรงเรียน
ในปี 1985 เขาย้ายไปซิดนีย์ เมื่ออยู่ที่นี่เขาเข้าเรียนที่โรงเรียนนานาชาติอเมริกันในซิดนีย์ ที่นี่ความชื่นชอบในการแสดงของเขากลายเป็นแรงจูงใจต่อไป เขาปรากฏตัวในการแสดงในโรงเรียนและเล็งเขียนทักษะการแสดงของเขา อย่างไรก็ตามเขาไม่มีความสนใจในการศึกษาและจึงลาออกเพื่อทำงานในโรงภาพยนตร์ Warringah Mall เขาสุดท้ายเข้าใจค่าของการศึกษาในระดับมืออาชีพและเข้าร่วมเป็นนักเรียนในสาขาภาพยนตร์ที่มหาวิทยาลัยบริกแกม ยังหวังจะได้เรียนรู้เพิ่มเติม และในฐานะนักแสดง ตอนกลับมาสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1988 เขาได้ย้ายเรียนไปที่มหาวิทยาลัยบริกแกม และจบการศึกษาด้วยปริญญาศิลปะบัณฑิตในปี ค.ศ. 1994 เขาได้มีการแสดงในละครหลายเรื่องในช่วงปีเรียนของเขา

อาชีพ
หลังจากจบการศึกษา เอรอน เอ็กฮาร์ทย้ายไปนิวยอร์กซิต ที่นี่เขาเริ่มต้นสำรวจหางานการแสดงที่มีความหมาย แต่เบื้องต้นเขากลับมาเล่นบทบาทเล็ก ๆ ในซีรีส์ทีวีหรือโฆษณาเท่านั้น เพื่อจะทำให้เงินพอใช้ เขาทำงานในงานหลายอย่าง เช่น บาร์เทนเดอร์ คนขับรถบัส และคนงานก่อสร้าง
เขาได้รับโอกาสในปี ค.ศ. 1997 เมื่อผู้กำกับ/นักเขียน นีล ลาบูต เข้าใจกับเอ็กฮาร์ท และเสนอบทบาทให้เขาในการประลองภาพยนตร์จากเวทีเรื่อง ‘In the Company of Men’ การแสดงของเอ็กฮาร์ทในบทบาทนักออฟฟิศที่หมองออกเจ็ดจดในภาพยนตร์เปิดตัวของเขาได้รับการตอบรับอย่างดี
ในปี ค.ศ. 1998 เขาพบกับบทบาทอีกหนึ่งบทของลาบูต ในคอเมดีดำของเขา ‘Your Friends & Neighbors’ ในบทบาทของชายที่รับผิดชอบทางเพศที่ติดขัดในการสมรสที่ไม่มีความสุข ในปีเดียวกันเขายังแสดงในบทเน็กในภาพยนตร์ ‘Thursday’
มีเพียงในปี ค.ศ. 2000 เอรอน เอ็กฮาร์ทได้รับโอกาสในการแสดงเป็นครั้งแรกในฐานะนักแสดงรับบทบาทจอร์จในภาพยนตร์ที่ได้รับคำชมอย่างมาก ‘Erin Brockovich’ ภาพยนตร์ชีวประวัติที่ได้รับคำชมมากที่มี จูเลีย โรเบิร์ตส์ ในบทบาทหลัก ตามลงท้ายบทบาทนี้เขาเริ่มได้รับโอกาสในการแสดงที่มีความหมายมากขึ้น
ในช่วงปีถัดไปเขาแสดงในหลายภาพยนตร์ เช่น ‘The Pledge’ (2001), ‘Possession’ (2002), ‘The Missing’ (2003), และ ‘Suspect Zero’ (2004) ในปี ค.ศ. 2004 เขายังแสดงในละครของเดวิด เมมิต ‘Oleanna’ ที่ Garrick Theatre การแสดงของเขาในละครเวทีได้รับคำชมอย่างมาก
ในปี ค.ศ. 2006 เป็นปีที่แอรอน เอ็กฮาร์ทมีผลงานมากมาย โดยเขาแสดงบทเน็ก เนเลอร์ ในคอเมดีดราม่า ‘Thank You for Smoking’ และเลอะ บลานชาร์ด ในภาพยนตร์แอ็คชันสืบสวน ‘The Black Dahlia’ การแสดงของเขาในครั้งแรกได้รับคำชมมากในบทบาทแห่งนายทรรพประสาทดี เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล โกลเดน โกลบ์ สำหรับนักแสดงชายยอดเยี่ยม – หนังเพลงหรือคอมเมดีด
แอรอน เอ็กฮาร์ทได้รับบทบาทของฮาร์วีย์ เดนต์ ใน

ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่แอ็คชันสืบสวน ‘The Dark Knight’ ในปี ค.ศ. 2008 ซึ่งยังมีคริสเตียน เบล เป็นบรูซ เวน และฮีธ ลีดเจอร์ เป็นเดอะโจเกอร์ นักผลิตคริสโตเฟอร์ โนแลนได้เลือกเอ็กฮาร์ทเข้าร่วมในบทบาทของเดนต์ เนื่องจากประทับใจกับความสามารถพิเศษของนักแสดงในการแสดงบทบาทที่มีความ “เทา” มาก
เขาร่วมทัพกับนิโคล คิดแมน ในภาพยนตร์ดราม่า ‘Rabbit Hole’ ในปี ค.ศ. 2010 ที่เขาแสดงบทบาทของฮาวี่ พ่อคนหนุ่มที่ต้องเผชิญกับการเสียชีวิตของลูกชายเล็ก ๆ ภาพยนตร์นี้ได้รับคำชมจากวงการวิจารณ์มาก สำหรับภาพยนตร์นี้ เคริสต้าน คิดแมน เลือกเอ็กฮาร์ทเพื่อมารับบทบาทในฐานะสามีของเธอ
ในปี ค.ศ. 2011 แอรอน เอ็กฮาร์ทแสดงในภาพยนตร์วอร์ สยามวาร์ เอนจิวชั่นสไฟต์ต์แบทเติล ‘Battle: Los Angeles’ ที่ได้รับการกำกับโดย จอนาธัน ลีเบสแมน เขาเล่นบทบาทของหน่วยงานสายสังคมทหารรุ่นเรียนของ สตาฟเฟิลด์ ยูเอสเอ็มซี ซาร์เจนท์ ไมเคิล แนนทซ์ ที่ต้องกลับไปใช้งานอีกครั้งในฐานะนายทหารสมาร์ท ยูเอสเอ็มซี สซาร์เจนท์ ที่ต้องนำหน่วยงานสายหน่วยทหารยุทธการของสหรัฐอเมริกาและอากาศยานพันเอกของสหรัฐอเมริกาในช่วงการรุกรานจากมนุษย์ต่างดาว

ภาพยนตร์ที่เก่ากว่าของเขาประกอบด้วย ‘Olympus Has Fallen’ (2013), ‘I, Frankenstein’ (2014), และ ‘My All American’ (2015) ในปี ค.ศ. 2016 เขาแสดงในภาพยนตร์ ‘Sully’ ซึ่งได้รับคำชมจากวงการวิจารณ์และก็เป็นความสำเร็จทางการค้าในปีเดียวกัน เมื่อปีเดียวกันเขายังแสดงใน ‘Bleed for This’ ในบทเควิน รูนีย์